เมนู

อนาปัตติวาร


[200] บอกลาแล้วไป 1 อาสนะเคลื่อนที่ไม่ได้ 1 อาพาธ 1 มี
อันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกา 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
อันธการวรรค สิกขาบทที่ 5 จบ

อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ 5


วินิจฉัยในสิกขาบทที่ 5 พึงทราบดังนี้:-
สองบทว่า ฆรํ โสเธนฺตา มีความว่า ได้ยินว่า ชนเหล่านั้นได้มี
ความปริวิตกนี้ว่า การล่วงละเมิดทางกายทางวาจาบางอย่างของพระเถรีไม่
ปรากฏ. พวกเราจงช่วยกันชำระเรือนดูบ้างก่อนเถิด เพราะฉะนั้น พวกเจ้า
ของบ้าน เมื่อชำระเรือนจึงได้พบอาสนะ.
สองบทว่า อโนวสฺสิกํ อติกฺกมนฺติยา มีความว่า ภิกษุณีเมื่อให้
เท้าแรกก้าวเลยไป เป็นทุกกฏ. เมื่อให้เท้าที่ 2 ก้าวเลยไปเป็นปาจิตตีย์. แม้
ในการก้าวล่วงอุปจาร ก็มีนัยอย่างนี้เหมือนกัน.
บทว่า คิลานาย คือ ไม่อาจจะบอกลา เพราะอาพาธเช่นนั้น.
บทว่า อาปาทาสุ มีความว่า ที่เรือนเกิดไฟไหม้ขึ้น หรือถูกพวก
โจรปล้น ในอันตรายเห็นปานนี้ ไม่บอกลาหลีกไปเสีย ไม่เป็นอาบัติ. คำที่
เหลือในสิกขาบทนี้ ตื้นทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐานดุจกฐินสิกขาบท เกิดขึ้นทางกายกับวาจา 1
ทางกายวาจากับจิต 1 เป็นทั้งกิริยาทั้งอกิริยา เป็นโนสัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ
ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต 3 มีเวทนา 3 ฉะนี้แล.
อรรถกถาอันธการวรรค สิกขาบทที่ 5 จบ

< h1>อันธการวรรค สิกขาบทที่ 6

เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา


[201] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ถุลลนันทาเข้าไปสู่สกุลในเวลาหลังอาหาร แล้วนั่งบ้าง นอนบ้าง บนอาสนะ
ไม่บอกกล่าวเจ้าของบ้าน คนในบ้านกระดากภิกษุณีถุลลนันทา ไม่กล้านั่ง ไม่
กล้านอน บนอาสนะ เขาจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน แม่เจ้า
ถุลลนันทา จึงได้เข้าไปสู่สกุลในเวลาหลังอาหาร แล้วนั่งบ้าง นอนบ้าง บน
อาสนะ ไม่บอกกล่าวเจ้าของบ้านเล่า.
ภิกษุณี ทั้งหลายได้ยินคนพวกนั้น พากันเพ่งโทษ ติเตียน โพน-
ทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงได้เข้าไปสู่สกุลในเวลาหลังอาหาร แล้วนั่งบ้าง นอน
บ้าง บนอาสนะ ไม่บอกกล่าวเจ้าของบ้านเล่า. . .

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทาเข้าไปสู่สกุลในเวลาหลังอาหาร แล้วนั่งบ้าง นอนบ้าง
บนอาสนะไม่บอกกล่าวเจ้าของบ้าน จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.